ศัลยกรรมปลูกผมถาวรเป็นการผ่าตัดเล็กที่ใช้เวลานานมากถึง 10 ชั่วโมง และ ตลอดช่วงชีวิตของคนเราสามารถปลูกผมได้เต็มที่เพียง 3 ครั้ง ประกอบกับรากผมของคนเราที่สามารถนำมาปลูกผมได้มีอยู่อย่างจำกัด และ ไม่สามารถงอกขึ้นมาทดแทนใหม่ได้ เพราะฉะนั้นการเลือกคลินิกปลูกผมที่ดีจึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งการเลือกคลินิกปลูกผมที่ดีจะช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษาได้รับผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและพึงพอใจ
แนวทาง 3 ข้อสำหรับการเลือกคลินิกปลูกผม
1.ได้พูดคุยปรึกษากับหมอที่จะทำการปลูกผมโดยตรง เนื่องจากการปลูกผมเป็นการรักษาทางการแพทย์ เพราะฉะนั้นผู้เข้ารับการรักษาจึงควรได้รับการพูดคุยปรึกษา ตรวจประเมิณ และ แนะนำโดยตรงจากแพทย์เจ้าของไข้ที่จะทำการปลูกผม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้อง และ ป้องกันความผิดพลาดของการสื่อสารผ่านคนกลาง รวมถึงในกรณีที่มีข้อข้องใจหรือความคาดหวังที่แตกต่างกัน ผู้เข้ารับการรักษาจะได้สามารถพูดคุยสอบถามกับแพทย์ได้อย่างตรงไปตรงมา
2.ได้ทราบปริมาณกราฟต์ที่จะปลูกที่ชัดเจน เนื่องจาก คนเราสามารถปลูกผมได้ 3 ครั้งในช่วงชีวิต เพราะกราฟต์ผมเรามีจำนวนจำกัด ในความเป็นจริงทุกการปลูกผมจึงมีจำนวนกราฟต์ที่จำกัด การปลูกผมบุฟเฟต์จึงไม่มีอยู่จริง และ เป็นความเข้าใจผิด การเก็บกราฟต์ที่มากเกินไป จะส่งผลให้หนังศีรษะบริเวณท้ายทอย (Donor Area) มีลักษณะผมบาง เนื่องจากกราฟต์ที่ถูกเก็บไปแล้วจะไม่มีการงอกใหม่ทดแทน
ทุกการปลูกผมจึงจำเป็นที่แพทย์ต้องมีการประเมิณและคำนวณกราฟต์อย่างละเอียด
- ควรมีการส่องกล้องรากผมเพื่อประเมิณสุขภาพความพร้อมของกราผมบริเวณท้ายทอย
- คำนวณปริมาณกราฟต์ที่ต้องเก็บให้ “มากพอ” สำหรับการปลูกผมให้มีความหนาแน่นเป็นธรรมชาติ
- คำนวณปริมาณกราฟต์ที่ต้องเก็บให้ “ไม่มากเกินไป” จนทำให้บริเวณท้ายทอยดูผมบาง
- การคำนวณปริมาณกราฟต์ที่ชัดเจน ทำให้การใช้ทรัพยากรกราฟต์ผมของผู้เข้ารับการรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้เข้ารับการรักษาประหยัดเวลา และ ประหยัดค่าใช้จ่าย
ผู้เข้ารับการรักษาจึงควรได้ทราบว่าในวันที่ทำการปลูกผม ได้มีการเก็บและปลูกไปจริงทั้งหมดกี่กราฟต์ เพราะข้อมูลในส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของประวัติการรักษาที่ผู้เข้ารับการรักษาควรทราบติดตัวไว้ เผื่อในอนาคตมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์ที่อื่น จะได้สามารถให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
3.มีการพูดคุยถึงเรื่องการใช้ยา การรักษาด้วยยาเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในการรักษาร่วมกับการปลูกผม เนื่องจากการใช้ยามีส่วนช่วยให้ รากผมมีความแข็งแรงป้องกันการหลุดร่วง และ ทำให้รากผมมีความแข็งแรง เส้นผมหนามากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการขึ้นของกราฟต์ผมที่ทำการปลูกสูงขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันผมร่วงในระยะยาวหลังการปลูกผม ช่วยให้ผมที่ปลูกไปอยู่กับตัวผู้เข้ารับการรักษาได้นานยิ่งขึ้น ลดความจำเป็นในการปลูกผมซ้ำในรอบที่ 2
