PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นการสกัดเอาเกล็ดเลือดมาใช้บำรุงฟื้นฟูสภาพผิว โดยเกล็ดเลือดจะมี สารอาหาร และ โปรตีนที่สำคัญ ที่สามารถใข้กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้
PRP สามารถใช้รักษาอะไรได้บ้าง?
PRP ถูกใช้มาอย่างแพร่หลายเป็นระยะเวลานาน หมอกระดูกใช้ PRP การรักษาโรคข้อ หมอฟันใช้ PRP ในการรักษาแผลในช่องปาก
ในด้าน Aesthetic & Anti-aging – PRP สามารถใช้ฉีดบริเวณใบหน้า ลดการอักเสบ ลดการเกิดสิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ลดริ้วรอย ช่วยให้สภาพผิวโดยรวมดีขึ้น มีความชุ่มชื้นขึ้น
ในด้าน Hair – PRP สามารถใช้ฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อลดการอักเสบของหนังศีรษะ ลดการหลุดร่วงของเส้นผม กระตุ้นรากผมให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยสร้างเส้นผมใหม่ที่หนาแข็งแรงขึ้นมาทดแทนผมที่อ่อนแอได้
กระบวนการรักษาด้วย PRP
- PRP เป็นการรักษาที่ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องเตรียมก่อนมาทำ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังทำ
- ก่อนมาทำเพื่อประสิทธิภาพของเกล็ดเลือดที่ดีที่สุด คนไข้ควรเลี่ยงแอลกอฮอล์ 1 วัน และ เลี่ยงอาหารไขมัน/น้ำตาลสูงก่อนเข้ารับการรักษา
- ในขั้นตอนการรักษา แพทย์จะทำการเก็บเลือดของคนไข้ไป 5-10 cc. ขึ้นกับบริเวณที่ต้องการทำการรักษาด้วย PRP โดยเลือดที่ถูกเก็บไปจะถูกใส่ในหลอดที่มีสารกันเลือดแข็งตัว แล้วนำไปใส่เครื่องปั่นเหวี่ยง (Centrifuge) เพื่อสกัดแยกชั้นเกล็ดเลือดออกมา
- แพทย์จะทำการเก็บเกล็ดเลือดที่ได้จากการสกัด แล้วนำเกล็ดเลือดมาฉีดเข้าชั้นผิวหนังในบริเวณที่ทำการรักษาด้วยเกล็ดเลือด
- ภายหลังการฉีด แพทย์อาจทำการสะกิด (Micro needling) โดยเป็นการทำให้เกิดแผลในชั้นตื้น เพื่อโปรตีนจากเกล็ดเลือดสามารถออกฤทธิ์กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- ภายหลังการรักษาด้วย PRP คนไข้สามารถกลับบ้าน และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แพทย์แนะนำเลี่ยงการล้างหน้าหลังทำ PRP อย่างน้อย 4 ชั่วโมง
คำแนะนำในการทำ PRP
การรักษาโดยใช้เกล็ดเลือดมีข้อดีคือ สามารถทำได้ง่าย โอกาสในการเกิดการแพ้ต่ำเนื่องจากเป็นการใช้เซลล์ของลูกค้าเองกลับมาฟื้นฟูสุขภาพสภาพผิวตนเอง PRP สามารถทำซ้ำได้ทุก 2-4 สัปดาห์ ใช้เวลาต่อครั้งประมาณ 30 นาที แพทย์แนะนำควรทำ PRP อย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6 ครั้งในระยะกระตุ้น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี และ หลังจากนั้นสามารถทำต่อเนื่องทุก 1 เดือนในระยะคงสภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ PRP
- PRFM ดีกว่า PRP? : PRFM ย่อมาจาก Platelet Rich Fibrin Matrix เป็นการสกัดเกล็ดเลือดอีกวิธี โดยใช้หลอดเก็บเลือดที่ไม่มีสารกันเลือดแข็งตัว ทำให้ได้เกล็ดเลือดออกมาในลักษณะวุ้น อย่างไรก็ตาม PRFM มักจะถูกใช้ในการทันตกรรม โดยใช้แปะบริเวณแผลเพื่อให้แผลหายไวขึ้น ด้วยการที่เกล็ดเลือดที่สกัดได้มีลักษณะเป็นวุ้น ไม่ได้เป็นของเหลวทำให้ PRFM ไม่ได้เหมาะสมที่จะใช้ในการฉีดเข้าบริเวณใบหน้า หรือ หนังศีรษะรักษาบริเวณดังกล่าว
- ผู้ที่มีปัญหา ไขมันในเลือดสูง หรือ เบาหวาน ไม่สามารถทำ PRP ได้? : ผู้ที่มีโรคประจำตัวดังกล่าวควรแจ้งแพทย์ก่อนการรักษาด้วย PRP การรักษาด้วย PRP ในผู้ที่มีโรค ไขมันในเลือดสูง หรือ เบาหวาน ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย อย่างไรก็ตามเกล็ดเลือดที่สกัดได้จะมีประสิทธิภาพลดต่ำลง ทำให้การรักษาด้วย PRP ในผู้ที่มีโรคดังกล่าวได้ประสิทธิภาพไม่ดีเท่าที่ควร
- คนมีอายุเยอะ ไม่สามารถทำ PRP ได้? : การรักษาด้วย PRP สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ของ PRP ขึ้นกับตัวบุคคล ซึ่งอายุเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกล็ด ดังนั้นการทำ PRP ในผู้สูงอายุอาจมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเทียบกับการทำ PRP ในคนอายุน้อย
ทาง MP ให้บริการรักษารากผม และ ฟื้นฟูสภาพผิวหน้าด้วย PRP (Platelet Rich Plasma) ที่ทุกสาขาทั่วประเทศไทย สำหรับผู้ที่สนใจการรักษาด้วย PRP สามารถลงคิวนัดคุณหมอเพื่อปรึกษาและขอคำแนะนำก่อนได้ที่ทุกสาขาคลินิกในเครือของ MP